มาช่วยสอนการตลาดผมทีนะครับพี่ๆๆผู้รอบรู้ทั้งหลาย

Teach me about marketing,Help me please.

  • หมวดหมู่

  • คลังเก็บ

หลักการตลาด

Posted by namotaro บน พ.ค.pm07 18, 2007

บทบาทของการตลาดมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อองค์กรต่างๆ และสังคม ดังนั้นเราจึงต้องทราบความหมายของคำว่า “การตลาด” ว่าคืออะไร ความหมายตามสมาคมการตลาดแห่งสหรัฐอเมริกาได้กลล่าวไว้ว่า การตลาดคือ กระบวนของการวางแผนงานที่มีองค์ประกอบทางด้านแนวความคิดเกี่ยวกับการกำหนดราคา การส่งเสริมการตลาดและการจัดจำหน่าย แนวคิดผลิตภัณฑ์ บริการองค์กร และเหตุการณ์รูปแบต่างๆ ในการสร้างสรรค์แลกเปลี่ยนที่จะได้มาซึ่งความพึงพอใจส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ขององค์กร บริษัท และกิจการ ทั้งนี้ยังมีความหมายที่ได้ให้ไว้อย่างมากมายจากผู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการตลาด ซึ่งก็ให้ความหมายที่มีความใกล้เคียงกันโดยทั้งสิ้น ส่วนคำว่า “ตลาด” จะมีองค์ประกอบในเรื่องความจำเป็น คามต้องการ ความปรารถนาที่จะซื้อ มีเงินที่จะซื้อ และมีความสามารถหรืออำนาจในการตัดสินใจซื้อได้ และตลาดยังมีขอบเขตกว้างขวางมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมาโดยไม่จำเป็นจะต้องใช้สถานที่ในการซื้อและขายก็ได้
          ความสำคัญของการตลาดจะมีความสำคัญต่อองค์กรธุรกิจคือ เป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้และกำไรให้กับองค์กร อันนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า สามารถลดต้นทุนต่อหน่วยให้ต่ำลงได้จากการผลิตและช่วยให้นักธุรกิจมีความคิดริเริ่มและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ความสำคัญของการตลาดที่มีต่อสังคมคือ กาตลาดจะช่วยเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชากร การที่ประเทศให้ความสำคัญต่อหน้าที่ทางการตลาด จะช่วยก่อให้เกิดความเจริญทางเศรษฐกิจอันเป็นผลต่อการเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชากรในท้องถิ่นนั้นก่อให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ส่วนความสำคัญของการลาดที่มีต่อเศรษฐกิจคือ การตลาดจะช่วยสร้างความต้องการซื้อในสินค้าและบริการต่างๆ เป็นการเพิ่มการผลิตเพื่อสนองความต้องการซื้อให้เพิ่มขึ้น สามารถยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชากร ทำให้เกิดการหมุนเวียนของปัจจัยการผลิตต่างๆ ช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศได้

          ด้านกิจกรรมทางการตลาดเป็นกิจกรรมทงธุรกิจที่จะทำให้สินค้าหรือบริการเคลื่อนย้ายจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคหรือผู้ใช้ จะประกอบด้วยการวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การซื้อ การขาย การจัดจำหน่าย การจัดมาตรฐานและการแบ่งเกรดของผลิตภัณฑ์ ด้านการจัดจำหน่ายประกอบด้วย การขนส่ง การเก็บรักษาสินค้า ด้านการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนประกอบด้วย ด้านการเงิน การรับภาระความเสี่ยงที่เกิดขึ้น การจัดหาข้อมูลทางการตลาดและการวิจัยตลาด และกิจกรรมทางการตลาดยังสามารถเพิ่มคุณค่าและสร้างอรรถประโยขน์ให้เกิดขึ้นแก่รูปแบบของตัวสินค้า เวลา สถานที่ และการเป็นเจ้าของหรือกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้า
แนวทางการศึกษางานด้านการตลาดสามารถศึกษาได้หลายแนวทางด้วยกันคือ การศึกษาจากโภคภัณฑ์ จากสถาบันการค้าต่างๆ จากหน้าที่การทำงาน จากการบริหารงาน และการศึกษาจากสังคมที่เราดำรงอยู่

ที่มา http://www.geocities.com/mc_baring/page10channel.htm ขอบคุณครับที่ให้ความรู้

ใส่ความเห็น